วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

วันหยุด เที่ยวไหนดี



ใกล้วันหยุดสุดเหนื่อยและเมื่อยล้า
คิดไว้ว่าถึงวันคงสุขขี
จะพักผ่อนกายาล้าเต็มที
สงกรานต์นี้หยุดยาวเราสบาย

จะนอนยาวเฝ้าบ้านสักวันหนึ่ง
อีกวันถึงออกชวนมวลสหาย
ไปเที่ยวกันวันหยุดจุดผ่อนคลาย
ที่มั่นหมายไว้นานกาญจนบุรี

ไปล่องแพเที่ยวดูอยู่สังขละ
กราบไหว้พระทำบุญหนุนราศี
ดูสงกรานต์ชาวมอญย้อนชีวี
เป็นวิถีชาวบ้านตำนานชน

กลับจากเที่ยวเลี้ยวหลบซบตักอุ่น
ตอบแทนคุณมารดามาอีกหน
ทั้งพี่น้องพร้อมหน้ามาทุกคน
มอบสุขล้นเพื่อท่านวันครอบครัว

คนเผาถ่าน

ถมทางให้นางเดิน

คลองคดเคี้ยวเหลียวหาคนมาถม
ให้เอวกลมและกว้างรัศมี
ได้เดินดอนฟ้อนรำประดามี
กับชาตรีชายชาญโปรยหวานริน

จะถมไหวไหมนั่นฉันตัวใหญ่
หุ่นผีเสื้อสมุทรไซร้ให้ถวิล
จะนวยนาดหยาดย้อยฝากรอยดิน
เด็ดกระถินกินพลางช่างสุขใจ
อัศจรรย์จิต

แม้หุ่นเธอเหมือนอย่างนางผีเสื้อ
แต่ในเมื่อรักน้องต้องทนไหว
เปรียบดั่งพี่นี้เช่นพระอภัย
ทะเลใหญ่พี่พร้อมยอมถมทาง

จะนวยนาดหยาดย้อยกี่ร้อยหน
ก็จะทนจมจัดมิขัดขวาง
แต่ถามนิดเถิดหนาว่าน้องนาง
หุ่นกลมกว้างอย่างนี้มีใครแล

ถึงเป็นทางให้นางเดินไปนั่น
จุดหมายนั้นนางมีใครแยแส
คนที่เธอเหยียบนี้สิคอยแคร์
เป็นได้แค่ฝุ่นทรายใต้เท้าเธอ....

อ่านใจ..ในสายตา


เพียงสบตาเท่านั้นจิตหวั่นไหว
เธอยิ้มให้ใจฉันสั่นผวา
ยิ้มของเธอช่างน่ารักปักอุรา
ให้ฉันมาเพื่อเฝ้าคิด..คิดถึงเธอ

อยู่หลายวันแล้วเจ้าเฝ้าคิดหวน
สายตาชวนเชิญใกล้ใช่เสนอ
ทุกค่ำเช้าเข้าขั้นฝันละเมอ
อยากจะเจออีกครั้งยังฝังใจ

กลับไปรอที่เก่าที่เราพบ
อยากจะสบตากันดังฝันใฝ่
หากคราวนี้จะพร่ำไม่ร่ำไร
คงจะได้คุยบ้างอย่างแรกเริ่ม

ได้พบเธอจริงจริงดังสิ่งหวัง
เธอก็ยังส่งยิ้มพริ้มเพราเสริม
แต่คราวนี้เสียงเธอเสนอเติม
รับซาลาเปาขนมจีบเพิ่ม..อีกมั๊ยคะ ยิ้มแก้มแดง

คนเผาถ่าน

เสียกรุง..ครั้งที่สาม

ด้วยข้าศึกเชี่ยวกรากจากฝั่งเหนือ
รวมตัวเพื่อตีกรอบรอบสถาน
หมายพิชิตเมืองกรุงมุ่งทะยาน
ให้แหลกรานย่อยยับไปกับแรง

ผ่านนคร สวรรค์ ดันเข้าบ่า
โหมบีทาท่วมทั่วหัวระแหง
แม้กำแพงแนวกั้นมันตะแบง
ด้วยฤทธ์แห่งพิรุณหนุนนำชัย

กองหนุนหลักจากเขื่อนเคลื่อนเข้าเสริม
มาเพิ่มเติมกองทัพร่วมขับไล่
ทั้งนาลุ่มเรือกสวนล้วนบรรลัย
ข้าศึกไหลบ่าท่วมอ่วมวิญญา

สู่นครกรุงเก่าเข้าล้อมกรอบ
ทุกเขตรอบเกาะเมืองทั้งเบื้องหน้า
มีป่าสักเข้าร่วมท่วมระอา
มิดหลังคาบ้านเรือนเหมือนทะเล

ถึงหน้าด่านรังสิตติดแนวกั้น
เอาเรือหลวงช่วยดันผันหักเห
แต่กระนั้นข้าศึกผนึกเท
ยังเกเรรุกไล่จนใกล้พัง

มันยึดเมืองหลายเมืองสู่เบื้องลึก
มันผนึกแรงบ่าหมายฆ่าฝัง
มันตีกรอบรอบกรุงตุงพนัง
มันจะคลั่งถึงไหน..ใจระทึก

คนเผาถ่าน
นิราศหลงลงบางกอก

ระเรื่อยล่องท่องแคว้นแดนเชียงใหม่
จนสำราญผ่านลงยังพงไพร
สู่ต่อไปแดนล่างทางลำพูน

พบน้องนางพายเรือเพื่อยังชีพ
อาการรีบร้อนรนบ่นสิ้นสูญ
โชคชะตาหนนี้ทวีคูณ
แสนอาดูรน้ำท่วมอ่วมระอา

แล้วลงล่องท่องดูสู่เขื่อนใหญ่
ภูมิพลน้ำไหลให้กังขา
สุดแรงฤทธิ์มิดบ้านชานชลา
เห็นเมืองฟ้าเบื้องหน้าเป็นบาดาล

นครสวรรค์บ้านเมืองอันเลื่องชื่อ
บัดนี้หรือจมมิดคิดสงสาร
ผู้คนต่างเร่งแก้กระแสธาร
ให้ลงผ่านแม่น้ำข้ามเขตเมือง

ถึงชัยนาทลัดเลาะเกาะชายฝั่ง
เห็นบ้านพังด้วยแรงแห่งน้ำเหลือง
ท้องทุ่งนาไร้ข้าวเป็นอ่าวเนือง
ความรุ่งเรืองหมดสิ้นถิ่นระทม

ผ่านเมืองสิงห์อิงแอบแนบตลิ่ง
อยากพักพิงแดนนี้หนีขื่นขม
กลับยิ่งเศร้าเหลือแต่แค่สายลม
บ้านเมืองจมเห็นเพียงเสียงคนครวญ

เข้าอ่างทองมองเห็นดั่งเช่นอ่าง
ช่างอ้างว้างเหลือที่ฤดีหวน
หลังคาบ้านที่พักชักเจียนจวน
จะลอยด่วนตามน้ำข้ามดินแดน

สู่เมืองเก่าเข้าเขตเศรฐกิจ
หลายชีวิตร่ำไห้อาลัยแสน
ทั้งนิคมจมน้ำข้ามเมืองแมน
การวางแผนต้องล้มจมหมดสิ้น

เห็นน้ำตาหลายคนล้นท่วมเอ่อ
ได้เจอะเจอน้ำใจไหลทั่วถิ่น
ทั้งมีเหลือแบ่งบันให้กันกิน
อีกได้ยินห่วงใยใฝ่อาทร

คนเรือนแสนไร้สุขทุกข์สาหัส
ทั้งในวัดพระเณรเห็นเดือดร้อน
อยู่ไม่ไหวใจช้ำจำต้องจร
สู่นครบางกอกขอบอกลา

ประตูเมืองชั้นในเข้าไม่ได้
เขาปิดไว้กันฉันนั้นเข้าหา
จึงต้องอ้อมยอมเขาเข้าประปา
หวังได้มาบางกอกออกทะเล

คนเผาถ่าน

วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

๐ ร่ำเมรัยใต้แสงจันทร์ ๐




คืนฟ้าหม่นทนเหงาใต้เงาแสง
จันทร์สีแดงสาดส่องร่องเมฆหนา
เป็นริ้วรอยดั่งเลือดเชือดเมฆา
ไยหนอฟ้าช่างหม่นคนเหงาใจ

รินสุราราดรดกดดวงจิต
หวังปกปิดรอยช้ำระกำไหม้
มีสุราเป็นเพื่อนไม่เหมือนใคร
เคยบ้างไหมมันทำช้ำดวงแด

ฟ้าก็หม่นคนก็เหงาเข้ากันนัก
ยากจะหักใจล้างกลางดวงแข
ร่ำสุราลืมรักพักใจแคร์
ขอเพียงแค่เมาเมาเคล้าแสงจันทร์


คนเผาถ่าน

วันที่ฝนตก ...




ในค่ำคืนที่ฝนหล่นโปรยปราย
ฉันทอดกายลงร่างกลางสายฝน
ให้สายน้ำเย็นหยดร่วงรดตน
ล้างกมลคนช้ำให้ฉ่ำใจ

บนถนนที่ชุ่มรายรุมล้อม
เสียงขับกล่อมกบเขียดละเมียดไหว
ดังระงมคลื้นเคลงมิเกรงใคร
ที่ฤทัยเจียนขาดจากพลาดรัก

หยดน้ำฝนปนเคล้าเข้านัยตา
ไหลลงบ่าท่วมท้นคนอกหัก
ให้น้ำฝนท่วมใจไปสักพัก
อาจถอนรักที่ฝังหยั่งรากใจ


คนเผาถ่าน